ในแต่ละวันคุณดื่มน้ำตอนไหนบ้าง ?
ถ้าคำตอบคือ "ตอนรู้สึกคอแห้ง"
แปลว่าร่างกายคุณอาจกำลังอยู่ในภาวะขาดน้ำ เพราะความรู้สึกคอแห้ง (Thirsty & Dehydrated) เป็นการส่งสัญญาณเตือนครั้งสุดท้ายว่าร่างกายกำลังขาดน้ำ
แล้วสัญญาณเตือนครั้งแรกคืออะไร ?
ที่ได้รับผลเร็วที่สุดคือ เลือดกับน้ำเหลือง เลือด จะลำเลียงออกซิเจนและพลังงานไปสู่เซลล์ น้ำเหลือง จะนำเซลล์เก่าๆและสารพิษต่างๆ เส้นเลือดและต่อมน้ำเหลืองจึงเหมือน ท่อน้ำในร่างกาย
เลือด
ประกอบด้วยเม็ดเลือดแดง 40-50 % พลาสมา 55 % พลาสมาเป็นน้ำ 90 % น้ำเหลือง เป็นของเหลวที่เกิดจากพลาสมา เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ น้ำในเลือดและน้ำเหลืองก็ลดลงด้วย
จึงทำให้เลือดเข้มข้นขึ้น เรียกว่า "เลือดข้น"เลือดจึงหนืด ทำให้หมุนเวียนไม่สะดวก ร่างกายต้องพยายามให้เลือดไหลเวียนไปส่วนสำคัญ ทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่นความดันสูง หัวใจเต้นเร็วขึ้น
ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น
เริ่มไม่มีชีวิตชีวา หรือไม่มีน้ำมีนวล
เสียงแหบ
ก็เป็นสัญญาณเตือนเพราะเวลาพูดทำให้สูญเสียน้ำไปกับการหายใจและเหงื่อ ปอดและหลอดลมต้องการน้ำหล่อเลี้ยงอยู่เสมอ ควรดื่มก่อน และหลังสัก 1 ลิตร แม้จะไม่หิวน้ำก็ตาม
ตาแห้ง
สมัยนี้เราใช้ คอมพิวเตอร์และมือถือทำงานกันมาก จึงทำให้คนต้องทรมานจากอาการตาแห้งมากขึ้น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตาแต่มันเกิดจากการที่ร่างกายขาดน้ำมากกว่า แก้โดยดื่มน้ำ 2-3 แก้วและหลับตาสักครู่ ดีกว่าใช้ยาหยอดตาหลายเท่า แต่ทางที่ดีที่สุดคือดื่มน้ำเป็นระยะๆ เพื่อให้ร่างกายมีน้ำหล่อเลี้ยงทุกส่วนตลอดเวลา
ตะคริว
ที่เป็นตะคริวเพราะกล้ามเนื้อยืดหยุนไม่ได้ เนื่องจากปริมาณน้ำในเลือดลดลง ทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง เกลือแร่เสียสมดุล
ขณะหลับ
ร่างกายจะไม่ได้รับน้ำ จึงทำให้เกิดภาวะขาดน้ำได้ง่าย แม้เราไม่ควรดื่มน้ำก่อนนอน เพราะอาจทำให้น้ำไหลย้อนมาตามหลอดอาหารได้ แต่ถ้าดื่มก่อนสัก 2 ชม. น้ำส่วนเกินจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ ก่อนที่เราเข้านอน
"อย่ารอจนเรารู้สึกหิวน้ำ ควรดื่มเป็นระยะ ตลอดทั้งวัน"
จากหนังสือ กินอยู่อย่างไรให้อ่อนวัยตลอดกาล ดร. ฮิโรมิ ชินยะ
Tel : 081 562 5659
Email : kangenthai@gmail.com