วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

นักเคมีเผยดื่มน้ำบริสุทธิ์ เครื่องทำน้ำด่าง

เครื่องทำน้ำด่าง
นักเคมีอาวุโส เผย ข้อมูลเรื่องการดื่มน้ำที่ผ่านกระบวนการรีเวิร์ส ออสโมซิส หรือ อาร์โอนั้น ร่างกายมีสิทธิขาดแร่ธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียมที่สำคัญและมีความจำเป็นต่อร่างกาย ก่อให้เกิดอันตรายอาจอายุสั้นก่อนวัยอันควรทั้งที่ ดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ทั้งนี้เพราะความไม่รู้คุณประโยชน์และโทษของน้ำบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
รองศาสตรจารย์ ดร.พิชัย โตวิวิชญ์ รองประธานชมรมอยู่ 100 ปี ชีวีมีสุข และอดีตหัวหน้าภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวยืนยันว่า การดื่มน้ำบริสุทธิ์เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายขาดเกลือแร่ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต รวมทั้งการทำงานของเอนไซม์ภายในร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อและหัวใจต้องการแร่ธาตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แคลเซียม แมกนีเซียม เป็นต้น
"อย่าว่าแต่น้ำบริสุทธิ์เลย แม้แต่น้ำอ่อนที่เกิดจากการใช้เรซิน ขจัดเอาแร่ธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียมออกไปยังทำให้เกิดเป็นโรคหัวใจได้ โดยมีการยืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างโรคหัวใจกับการดื่มน้ำอ่อนที่ปราศจากแร่ธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียม ซี่งน้ำบริสุทธิ์ถือว่าเป็นน้ำอ่อนที่สุด เพราะไม่มีแร่ธาตุอะไรเจือปนอยู่เลยแม้แต่น้อย และยังสามารถดูดซับและสกัดเอาแร่ธาตุต่างๆที่อยู่ในเซลอวัยวะของร่างกาย แล้วขับถ่ายออกมากับปัสสาวะ ซึ่งมีการพิสูจน์แล้วว่าผู้ที่ดื่มน้ำบริสุทธิ์เป็นประจำ จะมีแร่ธาตุในปัสสาวะมากกว่าผู้ที่ดื่มน้ำธรรมดาทั่วไปที่ไม่ใช่น้ำบริสุทธิ์”
นอกจากนี้รองศาสตรจารย์ ดร.พิชัย ยังกล่าวเสริมว่า ยังมีการพิสูจน์จาก 3,000 ตัวอย่าง ในการวิเคราะห์เลือดและปัสสาวะของผู้ที่ดื่มน้ำบริสุทธิ์เป็นเวลานาน จะมีอาการของโรคขาดแร่ธาตุหลายอย่าง โดยแทบจะไม่มีข้อยกเว้น ได้แก่ โรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน โรคปวดตามข้อกระดูก โรคคอหอยพอก โรคความดันโลหิตสูง โรคที่เกี่ยวข้องกับเส้นโลหิต และโรคแก่ก่อนวัย เป็นต้น ถึงแม้ว่าผู้ที่ขาดแร่ธาตุเหล่านั้นจะได้รับการเสริมให้แร่ธาตุเพิ่มเติมในภายหลังเป็นเวลานานหลายปี ก็ยังมีอาการไม่ดีเท่ากับผู้ที่ดื่มน้ำที่ไม่ใช่น้ำบริสุทธิ์
ยกข้อมูลทางวิชาการมาอ้างอิง
รองศาสตรจารย์ ดร.พิชัย ได้อธิบายถึงข้ออ้างอิงทางหลักวิชาการว่า น้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากในร่างกายของคนเรา ซึ่งมีปริมาณมากถึงประมาณ 70% ของน้ำหนักร่างกาย แต่เซลล์เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายไม่ชอบความเป็นกรดของน้ำบริสุทธิ์ อันเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวและจากการละลายแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มีอยู่ทั่วในบรรยากาศ ทำให้น้ำบริสุทธิ์มีฤทธิ์เป็นกรด pH ประมาณ 5.5 ( ถ้าเป็นกลางจะมี pH = 7.7 ) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในวิชาเคมี เมื่อเซลล์หรือเนื้อเยื่ออวัยวะใดก็ตามสัมผัสกับน้ำบริสุทธิ์ที่มันไม่ชอบความเป็นกรด ก็ต้องทำการปรับสภาพด้วยการคายแร่ธาตุประเภทโลหะออกมา เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฯลฯ ซึ่งจะถูกขับถ่ายออกมาจากร่างกายทางปัสสาวะ ทำให้ร่างกายต้องสูญเสียแร่ธาตุที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิตชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งธาตุแมกนีเซียม มีความจำเป็นต่อการทำงานของเอนไซม์ในร่างกายของเรามากกว่า 300 ปฏิกิริยา รวมทั้งการดูดซึมเอาธาตุแคลเซียมไปใช้ ก็ต้องอาศัยเอนไซม์ที่มีแมกนีเซียมเป็นส่วนประกอบสำคัญ ถ้าแมกนีเซียมในร่างกายไม่เพียงพอ ธาตุแคลเซียมที่เรารับประทานเข้าไป ก็จะกลายเป็นมลพิษในร่างกายได้ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งซึ่งเป็นสาเหตุแห่งการตายเร็วหรือเป็นโรคอันเนื่องมาจากการขาดแร่ธาตุดังกล่าวมาข้างต้น
เผยขั้นตอนการผลิตน้ำบริสุทธิ์พร้อมวิธีพิสูจน์
รองศาสตรจารย์ ดร.พิชัย ได้อธิบายถึงน้ำบริสุทธิ์ นอกจากจะผลิตได้จากการกลั่นหลายๆครั้ง ดังเช่นในอดีต แต่ปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีที่สามารถผลิตน้ำบริสุทธิ์ได้ง่ายกว่า โดยใช้ระบบที่เรียกว่า รีเวอร์ส ออสโมซิส หรือเรียกย่อๆว่า ระบบอาร์โอ (RO = Reverse Osmosis) ซึ่งมีจำหน่ายอยู่ทั่วไปในตลาดอย่างกลาดเกลื่อน รวมทั้งที่ตั้งเป็นตู้ไว้สำหรับหยอดเหรียญด้วย
เราสามารถพิสูจน์น้ำบริสุทธิ์ได้โดยใช้ขั้วไฟฟ้า เช่น ทำเป็นขั้วเหล็ก และขั้วอะลูมิเนียม จุ่มลงไปในน้ำ ถ้าเป็นน้ำบริสุทธิ์จะไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เพราะน้ำบริสุทธิ์เป็นฉนวน จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าน้ำนั้นมีแร่ธาตุละลายน้ำอยู่เพียงเล็กน้อย เช่น เติมเกลือแกงแม้เพียงเกล็ดเดียวลงไปในน้ำอาร์โอบริสุทธิ์ ก็สามารถนำไฟฟ้าได้ ทำให้เกิดการแตกตัวของน้ำ (Electro hydrolysis) มีแก๊สไฮโดรเจนผุดที่ขั้วอะลูมิเนียม ส่วนขั้วเหล็กจะเกิดตะกอนของสนิมเหล็ก ที่ดูเหมือนสกปรกแต่ความจริงเกิดจากการแตกตัวของโมเลกุลน้ำ ซึ่งประกอบด้วยธาตุไฮโดรเจนและออกซิเจน”
น้ำบริสุทธิ์มีประโยชน์ในการเติมแบตเตอรี่รถยนต์ ใช้ในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ใช้ผสมยาฉีด และในอุตสาหกรรมผลิตยา ฯลฯ นอกจากนี้ อาจใช้สกัดพิษออกจากร่างกาย ถ้าจำเป็นโดยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด จากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้โดยเฉพาะ แต่ไม่ควรใช่ดื่มเป็นประจำ ถ้าไม่อยากตายเร็วหรือเป็นโรคภัยไข้เจ็บ
แนะน้ำบริสุทธิ์มีประโยชน์ ไม่ผิดกฎหมาย เหมาะใช้ทางการแพทย์ ไม่ควรดื่มเป็นประจำ
 
    
       รองศาสตรจารย์ ดร.พิชัย ได้กล่าวถึงน้ำบริสุทธิ์ว่า มีประโยชน์ในการเติมแบตเตอรี่รถยนต์ ใช้ในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ใช้ผสมยาฉีด และในอุตสาหกรรมผลิตยา เป็นต้น นอกจากนี้ อาจใช้สกัดพิษออกจากร่างกาย ถ้าจำเป็นโดยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด จากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้โดยเฉพาะ แต่ไม่ควรใช่ดื่มเป็นประจำ ถ้าไม่อยากตายเร็วหรือเป็นโรคภัยไข้เจ็บ
             “ถ้าพิจารณากันตามตัวบทกฎหมายแล้ว ผู้ผลิตน้ำอาร์โอบริสุทธิ์ออกมาจำหน่ายในปัจจุบันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้เพราะประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 และมีการแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อปี พ.ศ.2534 ระบุเรื่องแร่ธาตุในน้ำดื่มบรรจุขวดจะมีปริมาณเกลือแร่แต่ละชนิดต้องไม่เกินเท่านั้นเท่านี้ โดยไม่ได้ระบุว่าต้องมีปริมาณไม่น้อยกว่าเท่าไร ในเมื่อน้ำอาร์โอบริสุทธิ์ไม่มีเกลือแร่อะไรเจือปนอยู่เลยแม้แต่น้อย จึงไม่เกินกว่าปริมาณที่ทางราชการกำหนดไว้ในประกาศกระทรวงดังกล่าว ทางราชการจึงเอาผิดไม่ได้”              เสนอ 3 วิธีแก้ไข              รองศาสตรจารย์ ดร.พิชัย กล่าวว่า ในเรื่องนี้มีทางออกในการแก้ปัญหาคือ อย่างแรกให้มีการเติมแร่ธาตุที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกายลงไปในน้ำอาร์โอปริสุทธิ์ เช่น เติมแคลเซียม และ แมกนีเซียม เป็นต้น ในปริมาณที่เหมาะสม วิธีนี้ประเทศที่เจริญได้ทำมานานแล้ว สองแก้ไขกฎกระทรวง ประประกาศกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับน้ำดื่ม ควรระบุปริมาณแร่ธาตุที่ละลายอยู่ในน้ำดื่ม ไม่เฉพาะแต่ขั้นสูงสุดไม่เกินเท่านั้นเท่านี้ แต่ควรกำหนดปริมาณขั้นต่ำเอาไว้ด้วย เช่น กำหนดว่าต้องมีแคลเซียมและแมกนีเซียมไม่น้อยกว่าเท่าไรให้เหมาะสมกับชนิดของแต่ละแร่ธาตุ ซึ่งจะทำให้น้ำดื่มปลอดภัยมากขึ้น อย่างน้อยที่สุดจำนวนผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจจะลดลงอย่างแน่นอน        และสุดท้ายให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกแก่ผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้สนับสนุนและประชาชนผู้บริโภค การดื่มน้ำอาร์โอบริสุทธิ์จะบั่นทอนชีวิตของผู้บริโภคให้ตายเร็วขึ้น เป็นการ “ฆ่าตัวตายผ่อนส่ง” ซึ่งถือว่าเป็นบาปอย่างยิ่ง              “สำหรับผู้ที่ไม่เห็นอันตรายของน้ำดื่มอาร์โอบริสุทธิ์ก็ขอให้ศึกษาเรื่องน้ำบริสุทธิ์ให้มากๆ ซึ่งอาจจะค้นคว้าได้ในห้องสมุด หรือจาก Internet ภายใต้ Key words เช่น Drinking water (น้ำดื่ม) Distilled water (น้ำกลั่น) และ Reverse Osmosis (อาร์โอ หรือ รีเวอร์สออสโมซิส) โดยเน้นในเรื่อง toxicity (ความเป็นพิษ) หรือ dangerous (อันตราย) แล้วจะเข้าใจได้มากขึ้นอย่างแน่นอน"              อีกประการหนึ่ง ถึงแม้ว่าอาหารไทย จะอุดมสมบูรณ์ด้วยเกลือแร่นานาชนิดมากมาย แต่การรับประทานอาหารที่มีเกลือแร่เพื่อเสริมสร้างเซลล์เนื้อเยื่อ และการทำงานของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ต้องผ่านขบวนการทำงานของเอนไซม์ที่สลับซับซ้อนมาก และใช้เวลานาน ซึ่งต่างจากการทำลายแร่ธาตุของน้ำบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เป็นเรื่อง “ต่างกรรรมต่างวาระ” เปรียบเสมือนการ “ทำบุญ” กับการ “ทำบาป” ซึ่งเป็นคนละเรื่องเดียวกัน อันมีผลต่อชีวิตจิตวิญญาณ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคขาดแร่ธาตุ ถึงแม้ว่าจะเสริมแร่ธาตุเพิ่มเติมในเวลาต่อมาเป็นเวลาหลายปีก็ยังมีก็ยังมีสุขภาพไม่ดีเท่ากับผู้ที่ไม่เจ็บป่วยด้วยการดื่มน้ำธรรมดาที่ไม่ใช่น้ำบริสุทธิ์”รองศาสตรจารย์ ดร.พิชัย กล่าว และได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ในเมื่อเราทราบว่าน้ำอาร์โอบริสุทธิ์จะฉุดเกลือแร่ออกจากร่างกาย ทำให้ตายเร็ว หรือเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคต่างๆ แล้วเราจะดื่มเข้าไปบั่นทอนชีวิตของเราไปทำไม
           ปัจจุบันผู้คนนิยมดื่มน้ำที่จำหน่ายในแบบถังและขวด ที่ผ่านกระบวนการรีเวิร์ส ออสโมซิส หรือ อาร์โอ เพราะเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ สะอาดของน้ำ
          ก่อนที่จะดื่มอย่าลึมดูที่ข้างขวดว่า กระบวนการผลิตใช้ระบบอะไร บางยี่ห้อไม่ได้ระบุก็ไม่ต้องซื้อมาดื่ม ถ้าไม่อยากตายผ่อนส่ง ขอบคุณข้อมูลจาก oknation.net
ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ กด Like Fan Page
Tel    : 081 562 5659
Email : kangenthai@gmail.com
Fill out my online form.

ไม่มีความคิดเห็น: